หากจินตนาการย่านชุมชนทะเลน้อยเป็นภาพวาด คงจะเห็นภาพยอจับปลาขนาดใหญ่ ลอยอยู่กลางผืนน้ำสีทองในยามเช้า ดูราวกับประติมากรรมศิลปะขนาดยักษ์กลางทะเล หรือภาพทะเลสีชมพูที่มีบัวแดงบานสะพรั่ง มีฝูงนกน้ำบินหลากพันธ์ุบินโฉบหาปลาไปมา พร้อมเหล่าควายน้ำกำลังเล่นน้ำอย่างเพลิดเพลิน เหล่านี้ล้วนเป็นภาพจำของย่านทะเลน้อย ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนเป็นแรมซาร์ไซต์ (Ramsar Site) หรือพื้นที่ชุ่มน้ำโลกแห่งแรกของประเทศไทย

นอกจากภาพธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่โดดเด่นกว่าใคร ยังมีชุมชนเก่าแก่ที่เติบโตมาพร้อมกับภูมิปัญญาประมง และทักษะการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ หยิบจับของใกล้ตัวจากธรรมชาติ มาสร้างสรรค์เป็นสิ่งใหม่ๆ ที่สร้างรายได้ให้กับชุมชน ทั้งงานคราฟท์ ศิลปะและอาหารพื้นบ้าน ไม่ว่าจะเป็นงานฝีมือสานกระจูดที่ถือเป็นอาชีพและวิถีชีวิตของชุมชน วิถีการเลี้ยงควายน้ำ ภูมิปัญญาการทำปลาดุกร้า แกงน้ำเคย และไข่ปลาตะเพียนทอดตามฤดูกาล ที่มีเฉพาะย่านนี้เท่านั้น

ด้วยศักยภาพของธรรมชาติแวดล้อม และภูมิปัญญาอันน่าหวงแหน ย่านชุมชนทะเลน้อยจึงมีความเหมาะสมที่จะเป็นต้นแบบในการพัฒนา โดยดึงคนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมต่อยอดสิ่งใหม่ๆ จากรากเหง้าที่แข็งแกร่งของชุมชน ให้มีความหลากหลาย และตอบโจทย์โลกยุคใหม่มากยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการหาหนทางอนุรักษ์ และเพิ่มพูนความสมบูรณ์ของธรรมชาติให้คงอยู่สืบไปอย่างสร้างสรรค์