เมื่อสามเกลอมารวมตัวกันเพื่อทดลองและไม่หยุดที่จะสร้างสรรค์เมนูอาหารไทย การเริ่มต้นใหม่ครั้งที่สองได้ออกสตาร์ทอีกครั้งในห้องครัวแห่ง “ชามแกง” ด้วยความเชื่อที่ว่า การคิดเยอะ ทำเยอะ ยิ่งแหลมคม รู้จักแนวทางของตัวเองมากขึ้น และมาพร้อมกับความใคร่รู้ในเรื่องราวของอาหารไทยแบบไม่สิ้นสุด

ไฟร้อนๆ ในเตาถ่านและความร้อนแรงของโทนสีภายในร้านหรือจะสู้ความไฟแรงของเชฟรุ่นใหม่ทั้งสามคนที่เริ่มต้นบอกกับเราว่าต่างคนต่างมีที่มาต่างกัน เชฟจ๋ายเรียนมาทางด้านเชฟโดยตรง ส่วนเชฟมิวจบจากนิเทศ และเชฟอิ๋วหญิงสาวหนึ่งเดียวในแก๊งค์ที่จบจากวิศวะกรรมเคมี แม้จะมาจากต่างที่แต่ท้ายที่สุดก็ได้มาร่วมหัวจมท้ายในที่เดียวกันนั่นคือการได้เข้าไปเป็นเด็กฝึกงานก้นครัวประจำร้าน Nahm (น้ำ) ร้านอาหารไทยระดับมิชลินสตาร์ของเชฟรุ่นใหญ่อย่างเชฟเดวิดและเชฟปริญญ์ ถือเป็นการเริ่มต้นเดินทางบนเส้นทางสายเชฟที่มาบรรจบกันของทั้งสามคนด้วยแนวคิดและความชื่นชอบในเรื่องอาหารที่แมตช์กันพอดี

เริ่มทำและนับหนึ่งใหม่พร้อมกันจากการทดลองทำร้านอาหารไทยแบบป๊อปอัพเล็กๆ ที่เปิดขายเฉพาะวันหยุดเสาร์อาทิตย์ในพื้นที่ของ Soy Sauce Factory ซอยเจริญกรุง 24 โดยมีเชฟเดวิดและเชฟปริญญ์คอยให้คำปรึกษา พร้อมกับคุณศรัณย์ เย็นปัญญาแห่ง 56thStudio ที่มาช่วยออกแบบร้านและสร้างคาแรกเตอร์ให้กับ "ชามแกง Charmgang" แก๊งค์เชฟรุ่นใหม่ที่ไม่ได้มา "แกง" เล่นๆ ทั้งย่าง ยำ ตำ แกง ทักษะการทำครัวที่ทั้งสามเรียนรู้มาจนช่ำชอง สามารถทำแทนกันได้ทุกหน้าที่ และเอาจริงเอาจังทั้งบทบาทในครัวและหน้าร้านที่เรียกได้ว่าปรุงเอง เสิร์ฟเอง และรับลูกค้าเอง แม้จะเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ แต่กลับได้รับผลตอบรับดีเกินคาด พวกเค้าจึงต้องการให้ชามแกงไปได้ไกลและชัดเจนในวิถีของตัวเองมากขึ้น

"เราเนี่ยไม่ได้ปิดกั้นตัวเองว่าต้องทำอาหารไทยจ๋า แต่ว่าเราก็ไม่ได้ทำอาหารฟิวชั่นและก็ไม่ได้ทำอาหารฝรั่งด้วย ขณะเดียวกันเราก็ไม่ได้ปิดกั้นตัวเองในเรื่องของเทคนิค เหมือนเราเป็นสายประยุกต์มากกว่า" เชฟมิวบอกกับเราถึงวิธีการทำอาหารไทยในแบบฉบับชามแกง ด้วยเพราะเชื่อว่าเรื่องของอาหารไม่มีเส้นกั้นระหว่างวัฒนธรรมหรือเทคนิควิธีการปรุงใดๆ

ชามแกงจึงเป็นตัวแทนของคนเจนใหม่ที่จะมาถ่ายทอดเรื่องราวของอาหารไทยด้วยการประยุกต์ของโบราณกับรสนิยมปัจจุบันไว้ด้วยกันเพื่อให้เกิดสิ่งใหม่ อย่างเช่นเมนูพิมพ์ทองปลาอินทรีย์รมควันใส่ส้มโอที่ถูกปรับจากการทำขนมเบื้องเป็นการทำด้วยพิมพ์ทองม้วนแทน หรือแกงหลอกเนื้อรมควันใส่หน่อไม้ดองที่เปลี่ยนจากการใช้เนื้อปกติมาใช้เนื้อย่างหอมกลิ่นรมควันเข้ากับกะทิและเครื่องแกงสุดๆ แก๊งค์นี้เค้าเทคนิคแพรวพราวมากจริงๆ จนเราอาจเล่าไม่หมด เพราะตั้งแต่เมนูแกงที่ถูกยกให้เป็นพระเอกหลักของคอร์ส เสิร์ฟมาพร้อมกับข้าวหอมมะลิ ซุปใส เซ็ทน้ำพริกและยำเพื่อเอาไว้ล้างปากตัดเลี่ยน ล้วนมีเรื่องเล่าที่ทำให้เราหยุดฟังและละสายตาไม่ได้

วันนี้เชฟทั้งสามคนค่อยๆ เรียนรู้และเติบโตไปพร้อมกับร้านชามแกง จากบ้านเล็กหลังเก่าในซอยเจริญกรุง 24 ย้ายมายังบ้านหลังใหม่ที่อยู่ซอยตรงข้ามและเปิดมากว่า 6 เดือนแล้ว ความท้าทายครั้งใหม่ก็เกิดขึ้นเมื่อต้องเจอกับสถานการณ์โควิด แต่ทั้งสามกลับมองในแง่ดีว่าเป็นประสบการณ์และบทเรียนแรกของการทำธุรกิจ อีกทั้งการเป็นทีมเล็กถือเป็นข้อดีในแง่ของการบริหารจัดการภายในร้านเพราะช่วยกันระดมไอเดียได้เร็ว โดยช่วงสองเดือนที่แล้วตอนที่โควิดรุนแรงขึ้น ทำให้ร้านไม่สามารถเปิดให้นั่งทานได้ จึงเริ่มจากการปรับตัวหาลูกค้ากลุ่มใหม่ ตั้งแต่การปรับเมนูให้สามารถสั่งกลับไปทานที่บ้านได้ ปรับลดราคาเพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น แต่ก็ไม่ง่ายเลยเมื่อต้องมาขายแบบ delivery เพราะช่วงนั้นแพกเกจจิ้งเริ่มขาดตลาด แก๊งค์นี้จึงไม่หยุดคิดพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสนำไอเดียเข่งปลาทูมาทำเป็นปิ่นโตรองด้วยใบตองแบบไทยๆ เหนือสิ่งอื่นใดบทเรียนครั้งนี้ก็ได้ทำให้แก๊งค์ชามแกงกลับมาทบทวนตัวเอง พร้อมกับลุยไปในทางนี้ให้เต็มที่ในแบบฉบับของพวกเค้า

ชามแกง

เปิดวันพุธ-อาทิตย์ ทางร้านเปิดรับเพียงวันละ 2 รอบ เวลา
18.00 น. และ 19.30 น. (นั่งทานที่ร้าน)
ซอยนครเกษม 5 (เจริญกรุง 35)
โทร. 098 882 3251 หรือ in box FB: ชามแกง / IG: Charmgangcurryshop
ปล. ไม่รับ walk in ควรโทรหรือทักแชทจองโต๊ะล่วงหน้าน้า