ลายแทงเมนูเมืองเพชรที่คนท้องถิ่นบอกว่าต้องลอง

ขนมหวานอันทรงเสน่ห์ และรสสัมผัสที่นุ่มละมุน ตลบอบอวนไปด้วยความหอมของน้ำตาลโตนด เป็นรสชาติที่มีเอกลักษณ์และไม่มีใครไม่รู้จัก กับขนมของฝากขึ้นชื่อเมืองเพชร กับ “ขนมหม้อแกง แม่ละเมียด”

ขนมหม้อแกงแม่ละเมียด เดินทางมาถึงรุ่นที่ 2 กับการสานต่อตำนานความอร่อย ที่ยังคงรสชาติอร่อยได้เหมือนดั่งวันวาน พี่เปิ้ลบุตรสาวของคุณแม่ละเมียด รักและใส่ใจในการคัดสรรวัตถุดิบจากทั่วทุกที่ของจังหวัดเพชรบุรี ไม่ว่าจะเป็นเผือกจากอำเภอท่ายาง ไข่เป็ดจากอำเภอบ้านแหลม น้ำตาลโตนดของดีประจำถิ่นเมืองเพชร และผสมผสานกับมะพร้าวจากอำเภอทับสะแก จ.ชุมพร ทำให้หน้าของขนมเนียนสวยเหมือนดั่งเค้ก ด้วยใจรักได้ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจในการรักษาคุณภาพ และคงความอร่อยไว้ได้เป็นอย่างดี

ก๋วยเตี๋ยวเนื้อร้านเจ๊กอ้า เปิดมาแล้วกว่า 60 ปี ด้วยเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร กับน้ำซุปสีแดงใส เมื่อได้ลองซดน้ำซุปร้อนๆ แล้วจะได้สัมผัสกับรสชาติของเครื่องเทศและกลิ่นหอมอ่อนๆ ของเตาถ่าน คลุกเคล้ามากับเนื้อนุ่มๆ ช่างเป็นอะไรที่ลงตัวจริงๆ นอกจากนั้นที่ร้านยังมีน้ำจิ้มรสเด็ดสูตรลับเฉพาะของทางร้าน รวมรสชาติความเป็นเมืองเพชรได้อย่างกลมกล่อม คือมีทั้งความเผ็ด เปรี้ยว หวาน ในถ้วยเดียว

https://www.facebook.com/share/v/1BRVPVg9ud/

ถ้ามาเพชรบุรี แล้วไม่ได้ทานข้าวแช่ป้าเอื้อน เค้าว่ามาไม่ถึงนะ !

ข้าวแช่ในจังหวัดเพชรบุรีมีหลายร้าน วันนี้เราขอหยิบยกร้านข้าวแช่ป้าเอื้อน ที่มีมานานกว่า 60 ปี ถูกส่งต่อมาถึงรุ่นที่ 2 ที่ยังคงความเรียบง่ายแต่รักษาไว้ซึ่งความอร่อยได้เป็นอย่างดี ข้าวแช่ มีชื่อเป็นข้าว แต่จริงๆแล้วเป็นอาหารทานเล่น สมัยก่อนนิยมทานช่วงหน้าร้อน แต่ปัจจุบันนิยมทานกันเป็นประจำในช่วงยามบ่าย

ข้าวแช่ 1 ชุด ประกอบไปด้วยข้าวที่ถูกขัดไขออกจนขาวนวล ตักน้ำอบควันเทียนและกระดังงาราดลงไป โรยหน้าด้วยดอกมะลิ เมื่อซดน้ำจะทำให้รู้สึกสดชื่นจับใจ และมีเครื่องเคียง 3 อย่าง คือปลากระเบนเนื้อดำผัดกับน้ำตาลโตนด ไชโป๊หวาน ลูกกะปิทอดที่ทำมาจากมะพร้าวคั่วจนหอมและกะปิลงไป เวลาทานด้วยกันก็จะได้รสชาติที่อร่อยและลงตัวแบบที่หาทานที่ไหนก็ไม่เหมือนที่นี่ วัฒนธรรมการกินข้าวแช่ยังคงเป็นที่นิยมกันอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

ดั่งคำที่ว่า ถ้ามาเพชรบุรี แล้วไม่ได้ทานข้าวแช่ป้าเอื้อน เค้าว่ามาไม่ถึงนะ ลองเปิดใจสัมผัสรสชาติแห่งวัฒนธรรมการกินที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน รสชาติที่ไม่เหมือนที่คุณเคยสัมผัส และความลงตัวที่คุณยากจะลืมเลือน

วัตถุดิบลับเมืองเพชรที่หลายคนยังไม่รู้จัก

เมื่อเอ่ยถึงเพชรบุรี หลายคนนึกถึงขนมหวานเลื่องชื่อ หรือวัดวาอารามเก่าแก่ แต่ที่บางขุนไทร อำเภอบ้านแหลม ยังมี “ทะเลโคลนผืนสุดท้ายของเพชรบุรี” ที่ซุกซ่อนขุมทรัพย์ทางอาหารไว้ภายใต้โคลนที่ดำแวววาว นั่นคือ “หอยเสียบ” วัตถุดิบพื้นถิ่นตัวจิ๋ว ที่อุดมไปด้วยรสชาติเฉพาะถิ่น จากแร่ธาตุของผืนโคลน ที่เติบโตมากับผืนน้ำเค็มอย่างช้าๆ จนกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในการหาอยู่หากินของวิถีชีวิตชายฝั่งมาหลายชั่วอายุคน

ในทุกวันหลังน้ำทะเลลด เมื่อนั่งเรือออกจากหมู่บ้านโดยใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ภาพทะเลโคลนกับชาวบ้านที่กำลังไถกระดาน หาหอยเสียบโดยใช้เพียงมือ ไร้เครื่องจักรทุ่นแรงใดๆ ก็ยังเป็นวิถีดั่งเดิมที่สะท้อนถึงการยึดโยงในการดำรงไว้ซึ่งการเคารพในธรรมชาติ ที่ถึงแม้ทุกวันนี้หอยเสียบจะหายาก ลดน้อยลง และราคาไม่ได้สูงเมื่อเทียบกับความยากลำบากในการหา ด้วยหลังสู้ฟ้าหน้าสู้โคลน แต่เมื่อเป็นเพียงอาชีพเดียวของชาวบ้านที่นี่ และเป็นรากเหง้าของบ้านเกิด ร้อยยิ้มและความภาคภูมิใจของลุงป้าทุกคน  ก็ยังมีให้เห็นอย่างล้นเหลือ และมากพอที่จะแบ่งปันความรู้สึกนี้ให้กับนักชิมผู้มาเยือนเมืองเพชร ให้ได้รับรสถึงความเป็นอยู่  ที่ยังคงพึ่งพิงทรัพยากรจากธรรมชาติ และยึดโยงซึ่งกันและกันได้อย่างกลมกล่อม จนกลายเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์เคียงคู่เมืองเพชรบุรีมาอย่างยาวนาน

และเมื่อวัตถุดิบคุณภาพจากมือชาวประมง ถูกส่งต่อถึงมือเชฟ “กิจณรงค์ จันทร์ปลูก” หรือเชฟเปอร์โยต์ เชฟหนุ่มจากเพชรบุรีผู้หลงใหลในรสชาติของบ้านเกิด หอยเสียบในสายตาเขาจึงไม่ใช่เป็นเพียงแค่วัตถุดิบเท่านั้นแต่คือ การได้เคารพในวิถีของคนกับหอย อันเป็นรากเหง้าพื้นถิ่นของคนเมืองเพชร ซึ่งการนำหอยเสียบมาตั้งเตา รังสรรค์ปรุงแต่งเป็นเมนูพื้นถิ่น ที่นับวันจะหากินได้ยากลงทุกทีนั้น  จึงเป็นมากกว่าเมนูอาหารตั้งโต๊ะ แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือ ความภาคภูมิใจในบ้านเกิด ถิ่นฐานที่ยังคงอุดมไปด้วยทรัพยากรพื้นถิ่นและวิถีชีวิตที่ยังคงดำรงบอกเล่าเรื่องราวของคนเมืองเพชร อัตลักษณ์ของบ้านเกิดที่ไม่มีใครเหมือนและจะไม่มีวันเหมือนใครนั่นเอง

หากขึ้นต้นด้วยคำว่า “พริก” ที่ใครหลายคนคงคิดว่าเป็นพริกชนิดหนึ่ง ที่มีลำต้นเล็กๆ มีผลเป็นลูกเรียวยาวสีเขียวสีแดง หากแต่ได้ลองค้นหาข้อมูล และออกเดินทางไปชมให้เห็นกับตา ก็คงต้องร้องว้าวไม่ต่างกัน ด้วยลำต้นมีความสูงราว 5 – 10 เมตร อีกทั้งยังมีหนามรายล้อมตั้งแต่ส่วนลำต้นไปจนถึงกิ่งก้าน และที่น่าอัศจรรย์ไปกว่านั้นคือ ผลของพริกพราน มีลักษณะเม็ดเล็กกลม ออกผลเป็นพุ่มๆ ราวกับช่อดอกไม้

พริกพรานมักพบได้ในป่าลึก ในประเทศไทยพบมากในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ในพื้นที่สูงประมาณ ๒๐๐-๑,๐๐๐ เมตรจากระดับน้ำทะเล ต้องการอากาศค่อนข้างเย็น และเป็นพืชสมุนไพรของชาวกระเหรี่ยง ความพิเศษที่ธรรมชาติรังสรรค์นี้ ได้ถูกนำมาเป็นเครื่องเทศปรุงรสอาหารในเกือบทุกเมนู ไม่ว่าจะเป็นน้ำพริก หมักเนื้อสัตว์ แม้แต่จะต้มหรือแกง

ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ เผ็ดซ่า ชาลิ้นเบาๆ และมีความหอมคล้ายราวกับกลิ่นมะกรูด กลายเป็นรสชาติที่โดดเด่น ที่น่าประทับใจและไม่ลืมเลือนในรสชาติจนทำให้ คุณกฤษณะ ธนะกมลประดิษฐ์ หรือพี่กวย นำเมล็ดจากเพื่อนชาวกระเหรี่ยงมาทดลองเพาะปลูก ใช้ระยะเวลาหลาบสิบปี ในการทดลองปลูกจนสำเร็จ สามารถแยกต้นออกว่าพริกพรานต้นไหนเป็นตัวผู้ และพริกพรานต้นไหนเป็นตัวเมีย ด้วยความชื่นชอบกลายเป็นอาชีพ และกลายเป็นการอนุรักษ์และรักษาวัตถุดิบพื้นถิ่นที่ขึ้นชื่อและหายากประจำอำเภอหนองหญ้าปล้อง

#เพชรบุรี #ของดีเมืองเพชร #วิถีชีวิต #เชฟเปอร์โยต์ #Hometown #ตะโกนให้โลกรู้ว่าที่นี่บ้านเรา #HomeComing #CEA #BURABHA

-----

เรื่องราว ภาพและวิดิโอ: HOME/TOWN และ คนค้นฅน The Explorer โดย บูรพา