Bangkok/Charoenkrung/District Analysis
TH | EN

Brick-and-Click Business Opportunity

โอกาสธุรกิจ Brick-and-Click จากการขายผลิตภัณฑ์สู่การสั่งผลิต รับและปรับแต่งหน้าร้าน

Brick-and-Click Business Opportunity
Published Date:

ปัจจุบัน ธุรกิจในย่านสร้างสรรค์เจริญกรุง-นานาส่วนใหญ่เป็นธุรกิจแบบดั้งเดิม

ย่านสร้างสรรค์เจริญกรุง-นานามีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์กว่าครึ่งหนึ่งของธุรกิจทั่วไป ส่วนมากดำเนินธุรกิจผ่านการขายผลิตภัณฑ์สุดท้าย (End product) ของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นลักษณะโมเดลธุรกิจแบบดั้งเดิมหรือแบบ Brick-and-Mortar คำนี้มักถูกใช้เพื่อเรียกร้านค้า/ห้างร้าน หรือธุรกิจแบบดั้งเดิม ที่มีสถานที่เป็นหน้าร้านวางสินค้า รองรับกิจกรรมซื้อ-ขาย รวมถึงการจัดเก็บสินค้า ต่างจากโมเดลธุรกิจแบบใหม่ที่ใช้พื้นที่ออนไลน์ในการทำกิจกรรมทางธุรกิจร่วมด้วย ดังนั้น ประเด็นสำคัญที่แยกธุรกิจแบบดั้งเดิมออกจากธุรกิจแบบใหม่อยู่ที่การใช้พื้นที่ทางกายภาพเพื่อรองรับกิจกรรมทางธุรกิจในทุกขั้นตอน

ผลสำรวจข้อมูลกิจกรรมทางธุรกิจแบ่งตามอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ทั้งหมด 715 ธุรกิจ พบว่า มีสัดส่วนกิจกรรมทางธุรกิจหลักอย่างการออกแบบและขายผลิตภัณฑ์สุดท้าย สูงกว่ากิจกรรมสนับสนุนในเกือบทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ยกตัวอย่างกลุ่มอุตสาหกรรมหัตถกรรม (จิวเวลรีและเครื่องเงิน) มีหน่วยธุรกิจ 251 หน่วย ดำเนินธุรกิจผ่านกิจกรรมการขายจิวเวลรีและเครื่องเงิน การออกแบบและขายบริการที่เกี่ยวข้อง คิดเป็นกว่าร้อยละ 88 ที่เหลือเป็นกิจกรรมสนับสนุนพวกการขายวัสดุอุปกรณ์ตกแต่งจิวเวลรี และผลิตจิวเวลรีและเครื่องเงิน ธุรกิจในกลุ่มนี้ใช้พื้นที่ทั้งหมดประมาณ 84,000 ตารางเมตร คิดเป็นประมาณ 232 ตารางเมตรต่อหนึ่งกิจกรรม

ตัวอย่างของกลุ่มอุตสาหกรรมแฟชั่นเป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนกิจกรรมทางธุรกิจหลักใกล้เคียงกับกิจกรรมสนับสนุน ในหน่วยธุรกิจ 85 หน่วย ร้อยละ 52.59 ดำเนินธุรกิจผ่านกิจกรรมการออกแบบเครื่องแต่งกายและขายเสื้อผ้า ส่วนที่เหลือเป็นกิจกรรมสนับสนุนให้กิจกรรมหลักสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ เช่น ตัดเสื้อ เย็บผ้าและผลิตเสื้อผ้า และตัดผมแต่งหน้า เป็นต้น ธุรกิจในกลุ่มนี้ใช้พื้นที่ประมาณ 7,000 ตารางเมตร คิดเป็นประมาณ 35 ตารางเมตรต่อหนึ่งกิจกรรม

ถึงแม้ว่าแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมจะมีปริมาณการใช้พื้นที่ทางกายภาพเพื่อรองรับกิจกรรมทางธุรกิจที่แตกต่างกัน แต่ในภาพรวมแล้วในปี พ.ศ. 2560-2562 กิจกรรมธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ใช้พื้นที่เฉลี่ย 127 ตารางเมตรต่อหนึ่งกิจกรรมธุรกิจ มากกว่าธุรกิจทั่วไปที่ใช้พื้นที่เฉลี่ย 42.46 ตารางเมตรต่อหนึ่งกิจกรรมธุรกิจถึงเกือบสามเท่าตัว การใช้พื้นที่ทางกายภาพในสัดส่วนที่มากนี้สวนทางกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ตอบรับกับพื้นที่ออนไลน์มากขึ้นทุกปี

ภาพ: สัดส่วนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์แต่ละประเภท จำแนกตามลักษณะการดำเนินงานของธุรกิจ (ที่มา: รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการจัดทำฐานข้อมูลและการสื่อสารข้อมูลธุรกิจย่านสร้างสรรค์, 2562)

แนวโน้มการเติบโตของระบบ E-commerce และโมเดลธุรกิจ Brick-and-Click

ข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์กรมหาชน) บ่งบอกถึงแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจ E-commerce อย่างต่อเนื่อง ผลการสำรวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศ ปี 2561 มีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องระหว่างร้อยละ 7.9-14.04 ต่อปี และมีผู้ใช้งานมากถึง 45 ล้านคนในปี 2560 สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปและการพัฒนาของเครื่องมือสื่อสาร ทำให้คนเข้าถึงระบบการซื้อขายออนไลน์มากขึ้น โดยอุตสาหกรรมค้าปลีกและการค้าส่งมีมูลค่า e-commerce สูงสุดอันดับหนึ่งจากการปรับโมเดลธุรกิจและพัฒนาช่องทางการขายสินค้าและบริการแบบ Online to Offline และประเภทธุรกิจการจำหน่ายแฟชั่น เครื่องแต่งกาย อัญมณีและเครื่องประดับมีมูลค่า 60,474 ล้านบาท

สอดคล้องกับแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจ E-commerce และการผสมผสานช่องทางการบริการลูกค้า โมเดลธุรกิจแบบ Brick-and-Click ดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจทั้งบนพื้นที่ทางกายภาพและบนพื้นที่ออนไลน์ จึงเป็นทางออกที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจแบบดั้งเดิม เนื่องจากโมเดลนี้เป็นการเพิ่มช่องทางสื่อสารให้ข้อมูลกับลูกค้าทางออนไลน์ สร้างทางเลือกในการสั่งสินค้าผ่านทางหน้าร้านหรือทางออนไลน์ก็ได้ รวมถึงทางเลือกในการจัดส่งสินค้าถึงบ้านหรือมารับและลองสินค้าที่หน้าร้านได้เช่นกัน

ความสำเร็จของโมเดลธุรกิจแบบ Brick-and-Click ในหลายอุตสาหกรรม คงลดความกังวลที่ว่าธุรกิจ E-commerce จะทำให้ร้านค้าแบบดั้งเดิมหายไป ข้อดีของโมเดลธุรกิจนี้ คือ ดำเนินการได้ง่ายสำหรับธุรกิจที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอยู่แล้วมากกว่าธุรกิจหน้าใหม่หรือธุรกิจออนไลน์ที่มีต้นทุนต่ำกว่า และสามารถลดต้นทุนในการส่งสินค้าไม่ถึงมือหรือการส่งคืนสินค้า ส่วนข้อเสียของโมเดลธุรกิจนี้อยู่ที่ค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า เนื่องจากการรักษาพื้นที่หน้าร้านเอาไว้มีทั้งค่าสถานที่ ค่าจัดเก็บสินค้า ค่าพนักงานดูแล เป็นต้น ปัจจัยสู่ความสำเร็จของโมเดลธุรกิจนี้จึงขึ้นอยู่กับความสามารถในการจัดการระบบแยกส่วนและรวมส่วนกันระหว่างกิจกรรมทางธุรกิจที่ใช้พื้นที่ทางกายภาพและพื้นที่ออนไลน์

โอกาสปรับเปลี่ยนธุรกิจ

ธุรกิจสร้างสรรค์ในย่านเจริญกรุง-นานามีความโดดเด่นที่สินค้าคุณภาพดีมีชื่อเป็นที่รู้จักมายาวนาน อย่างธุรกิจจิวเวลรีและเครื่องเงิน และธุรกิจแฟชั่นเครื่องแต่งกาย ธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมนี้จึงมีศักยภาพในการปรับใช้โมเดลธุรกิจแบบ Brick-and-click เพื่อขยายพื้นที่หน้าร้านสู่ออนไลน์ เพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าในการสั่งสินค้าทางออนไลน์และมารับของที่สั่งไว้ที่สาขาหน้าร้านได้ อย่างไรก็ตามสำหรับธุรกิจจิวเวลรีและเครื่องเงินซึ่งเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูงและมีความเปราะบางในการขนส่ง รวมถึงลูกค้าต้องการลองสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อจึงมีข้อจำกัดในการปรับเปลี่ยนธุรกิจทางออนไลน์มากกว่ากลุ่มธุรกิจอื่น

ตัวอย่างธุรกิจจิวเวลรีที่ประสบความสำเร็จในการปรับโมเดลธุรกิจ อย่าง Ritani ธุรกิจค้าส่งในสหรัฐอเมริกาที่ปรับเปลี่ยนเป็นบริษัทค้าขายจิวเวลรีออนไลน์มูลค่ากว่า 50 ล้านดอลล่าสหรัฐฯ การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากการเชื่อมต่อหน้าร้านออนไลน์เข้ากับพื้นที่ทางกายภาพ โดยการจับมือกับนักออกแบบจิวเวลรีอิสระและร้านจิวเวลรีในพื้นที่ ทำให้ลูกค้าสามารถค้นหาสินค้าที่หลากหลายได้ทางออนไลน์ ปรับเปลี่ยนแบบและสั่งจิวเวลรีได้จากเวปไซต์ และหลังจากนั้นสามารถไปลองสินค้าได้ที่ร้านจิวเวลรีในระแวกบ้าน โดยลูกค้าสามารถปฏิเสธที่จะซื้อสินค้าได้หากลองแล้วไม่พอใจ สำหรับร้านจิวเวลรีในพื้นที่การจับมือกับพื้นที่ออนไลน์เป็นประโยชน์ในการสื่อสารถึงกลุ่มลูกค้าที่กว้างขึ้นและได้รับส่วนแบ่งจากกิจกรรมการซื้อ-ขายจิวเวลรีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ตามรหัสไปรษณีย์ ในทางกลับกัน ตัวอย่างในธุรกิจแฟชั่นที่ประสบความสำเร็จบนพื้นที่ออนไลน์มาก่อนเริ่มขยายธุรกิจโดยการเปิดพื้นที่หน้าร้านทางกายภาพอย่างเช่น CAMP เนื่องจากประสบการณ์การซื้อเสื้อผ้ายังคงเป็นส่วนสำคัญในการจูงใจและรักษากลุ่มลูกค้าเอาไว้ได้ ในขณะที่ช่องทางออนไลน์ช่วยเก็บข้อมูลความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้า นักออกแบบปรับดีไซน์ตามความต้องการที่ปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา พื้นที่หน้าร้านช่วยสร้างประสบการณ์ที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์ของร้านและลูกค้าได้เป็นอย่างดี

โดยสรุปแล้ว โอกาสในการปรับเปลี่ยนธุรกิจแบบ Brick-and-Click ให้สามารถดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจทั้งบนพื้นที่ทางกายภาพและบนพื้นที่ออนไลน์ได้ ขึ้นอยู่กับศักยภาพและเงื่อนไขของธุรกิจนั้นๆ ทั้งความหลากหลายและคุณภาพของสินค้า บริการที่เกี่ยวข้อง ระบบดำเนินการเชื่อมต่อทางกายภาพและออนไลน์ และขึ้นกับรูปแบบการบริหารจัดการพื้นที่ทางกายภาพให้สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องได้ โดยอาจเป็นในรูปแบบของความร่วมมือระหว่างธุรกิจที่มีพื้นที่หน้าร้านและธุรกิจออนไลน์บนผลประโยชน์ร่วมกัน