หากเอ่ยถึง อุดรธานี สิ่งแรกที่นึกถึงคงเป็น อารยธรรมห้าพันปี อย่างบ้านเชียง ซึ่งถือว่าเป็นเมืองโบราณแดนอีสานแห่งหนึ่งที่โด่งดังระดับโลก จนได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรม เมื่อปี 2538 จากการขุดค้นพบเครื่องปั้นดินเผา และหลักฐานทางประวัติศาสตร์ต่างๆ ที่เป็นเสมือนสมุดบันทึกชั้นดี ที่ทำให้เราสามารถแกะร่องรอยรากเหง้าระดับประเทศได้แบบไม่มีที่สิ้นสุด อีกทั้งยังมีความสำคัญในแง่เคยเป็นฐาน
ทัพของกองกำลัง G.I. จากสหรัฐ ในช่วงยุคสงครามเวียดนาม ทำให้สภาพเศรษฐกิจ สังคมและเมืองเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ถือเป็นเมืองแรกในอีสานที่มีการวางผังเมืองเป็นกิจลักษณะ มีผู้คนหลากอาชีพ หลากที่มา จนสั่งสมเป็นวัฒนธรรมเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนกับจังหวัดไหนในภูมิภาค จนพัฒนากลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจภูมิภาคอินโดจีน
ด้วยประวัติศาสตร์และรากเหง้าที่เข้มข้นนี้เอง ทำให้ผู้คนซึบซับภูมิปัญญาจากอารยธรรมในอดีต เกิดเป็นงานสร้างสรรค์ที่เป็นเอกลักษณ์ อาทิ หม้อเขียนสี ผ้าหมี่ขิด ผ้าทอโบราณย้อมสีบัวแดง ผ้าทอที่มีลวดลายแบบดินเผาโบราณบ้านเชียง ไปจนถึงหมอลำซิ่ง และงานฝีมืออื่นๆ ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ตลอดเวลา
โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่ปีมานี้ อุดรธานีได้เริ่มสร้างภาพจำใหม่ให้กับอีสานยุคใหม่ได้อย่างน่าสนใจ อาทิ ฝูงเป็ดยางสีเหลืองไซส์ยักษ์ลอยอยู่กลางบึงในสวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม ร้านอาหารอีสานแนวใหม่ ชูโรงด้วยวัตถุดิบถิ่นหายาก สตูดิโองานไม้ สตูดิโอเซรามิก สตูดิโอย้อมสีธรรมชาติ แกลเลอรี่ศิลปะร่วมสมัย ร้านโชห่วยสไตล์ใหม่เอาใจชุมชน ไปจนถึง พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานีที่มีดีไซน์สุดล้ำ ซึ่งล้วนแต่เป็นการตีโจทย์จากประวัติศาสตร์และอัตลักษณ์ท้องถิ่น จนออกมาเป็นอุดรธานีโฉมใหม่ที่ไม่ทิ้งรากเหง้าเดิม